วันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2560

ดอกราชาวดี

ดอกไม้ไทย
วันนี้มีดอกไม้ที่ไม่ต้องแนะนำให้รู้จักเพราะใครๆก็คงรู้จักกันเป็นอย่างดีแล้ว นั่นคือต้น "ราชาวดี" พรรณไม้หอมที่ได้รับความนิยมปลูกกันมากมายจนเกือบกลายเป็นไม้สามัญประจำบ้านไปแล้ว ถึงแม้จะมีคนจำนวนมากที่ไม่ชอบราชาวดีเอาเสียเลยก็ตามที
๑๑.ดอกราชาวดี
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Buddleja paniculata Wall.ชื่อวงศ์ : Loganiaceae ชื่อสามัญ : Butterfly Bush, Byttneria, Summer lilacชื่อพื้นเมือง : ราชาวดี, ไค้หางหมา, หางกระรอกเขมรถิ่นกำเนิด : เขตร้อนของทวีปเอเชีย

ราชาวดี : ดอกไม้ที่มีขึ้นสำหรับพระราชา 
ราชาวดีเป็นไม้ยืนต้นขนาดย่อม ลักษณะกิ่งไม้เลื้อย ชนิดกิ่งแข็ง ที่ทอดกิ่งออกไป ไม่พันรอบเหมือนเล็บมือนางแต่คล้ายมะลิลาหรือพุทธชาติราชาวดีมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่าBuddleja paniculata Wall. อยู่ในวงศ์ Buddlejaceaeป็นไม้กิ่งเถาที่แตกกิ่งก้านสาขามากลำต้นเป็นเหลี่ยมเล็กน้อยเปลือกหุ้มลำต้นมี สีน้ำตาลอมเทาใบดก เป็นใบเดี่ยว ออกเป็นคู่ตรงข้ามกิ่ง สีเขียว กว้าง 3 ถึง 5 เซนติเมตร ยาว 4 ถึง 7 เซนติเมตร หน้าใบสากคายคล้ายกระดาษทรายละเอียดท้องใบเรียบกว่าขอบใบจักเป็นซี่เล็กๆโดยตลอดใบทรงไข่ปลายค่อนข้างแหลมดอกราชาวดีออกบริเวณปลายกิ่งเป็นช่อใหญ่แยกออกจากซอกใบทั้ง 2 ด้านของกิ่ง แต่ละช่อจะประกอบด้วยกิ่งย่อยมีดอกสีขาวขนาดเล็กรูปร่างเป็นหลอดปลายกลีบบานคล้ายปากแตร ยาวประมาณครึ่งเซนติเมตรเรียงตัวอยู่รอบๆกิ่งย่อย ดอกจะทยอยบานในเวลาไล่เลี่ยกันและบานจากโคนกิ่งไล่ขึ้นไปเรื่อยๆในขณะที่ปลายกิ่งจะมีดอกอ่อนเกิดขึ้นใหม่ยาวออกไปเรื่อยๆตามปลายแหลมของกิ่งมีกลิ่นหอมอ่อนๆช่วงกลางวัน และหอมแรงตอนกลางคืน ข้อมูลเกี่ยวกับราชาวดีผู้เขียนมีน้อยมากเช่น ถิ่นกำเนิดดั้งเดิมและระยะเวลาที่เข้ามาปลูกในเมืองไทยเป็นครั้งแรกก็ยังไม่มีหากผู้อ่านท่านใดทราบกรุณาแจ้งมาที่กองบรรณาธิการหมอชาวบ้านก็จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านท่านอื่นๆและตัวผู้เขียนเองเท่าที่ทราบในขณะนี้คือราชาวดีเป็นต้นไม้มาจากต่างประเทศคงเข้ามาในเมืองไทยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะเอกสารที่มีในปีพ.ศ.2480ยังไม่ปรากฏชื่อราชาวดีเลยไม่ปรากฏว่าใครเป็นผู้ตั้งชื่อไม้ดอกต้นนี้ว่าราชาวดี นับว่าตั้งชื่อได้เหมาะสมมาก เพราะนอกจากไพเราะ แล้ว ยังมีความหมายดีมากอีกด้วยราชาวดีตามศัพท์แปลว่าของที่มีขึ้นสำหรับพระราชาเดิมเป็นชื่อเรียกการลงยาเครื่องทองให้เป็นสีฟ้าว่าลงยาราชาวดีเป็นการลงยาเครื่องใช้ของพระราชาเท่านั้น ใช้ลงเฉพาะเครื่องใช้ที่เป็นเงินหรือทองถือเป็นของสูงไม่ใช่ของคนสามัญทั่วไปสำหรับต้นราชาวดีนั้นแม้จะมีค่าเทียบได้กับเครื่องทองลงยาสีฟ้าสำหรับพระราชาแต่คนธรรมดาสามัญอย่างพวกเราก็มีสิทธิ์ชื่นชมกับคุณลักษณะพิเศษของไม้หอมชนิดนี้ได้ทั่วกัน 

ประโยชน์ของราชาวดี 
เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่เพิ่งเข้ามาประเทศไทยได้ไม่นานจึงยังไม่พบคุณสมบัติทางสมุนไพรอย่างเป็นทางการของราชาวดีแต่เชื่อแน่นอนว่าหากเชื่อตามหมอชีวกโกมารภัทว่าไม่มีพืชนิดใดที่ไม่เป็นยา ราชาวดีคงมีคุณสมบัติทางสมุนไพรด้วยแน่นอน โดยเฉพาะกลิ่นหอมแรงนั้น ย่อมมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งอาจใช้ในการรักษาแบบกลิ่นบำบัด(aroma therapy) อันเป็นการแพทย์แบบทางเลือกที่กำลังเป็นกระแสนิยมอยู่ทั่วโลกในขณะนี้ ราชาวดีในฐานะไม้หอม อาจปลูกลงดินในบริเวณบ้าน หรือข้างทางเดิน ก็จะให้กลิ่นหอมตลอดวันได้ตลอดทั้งปีหรือหากขาดแคลนที่ดินเหมือนผู้เขียน ก็อาจปลูกในกระถางได้โดยง่าย เพราะราชาวดีเป็นต้นไม้ที่ปลูกง่ายและแข็งแรงทนทานมากที่สุด ออกดอกได้ง่ายและตลอดเวลา ยิ่งกว่าต้นไม้ดอกชนิดอื่นหากกิ่งเริ่มแก่หรือทรงพุ่มใหญ่โตเกินไปก็ตัดแต่งได้ตามสมควรราชาวดีจะแตกกิ่งก้าน สาขาและให้ดอกได้ต่อเนื่องโดยไม่เสียเวลาพักตัวเลย โรคและแมลงก็ไม่เป็นปัญหาผู้เขียนปลูกราชาวดีมาหลายปี ไม่เคยพบปัญหาจากโรคแมลงเลย และไม่เคยพบว่าราชาวดีขาดดอกเลย (ยกเว้นช่วงตัดแต่งกิ่ง)ราชาวดีนั้นธรรมชาติคงมิได้สร้างขึ้นมาสำหรับพระราชาเท่านั้นแต่คงสร้างมาเป็นของขวัญสำหรับโลก ทั้งโลก ซึ่งรวมถึงสิ่งมีชีวิตทั้งปวง ขอเราจงมาชื่นชมกับของขวัญจากธรรมชาติชิ้นนี้ ให้สมคุณค่าที่มีอยู่นั้นเถิด 
ในหนังสือคู่มือคนรักต้นไม้ ไม้ดอกหอมสีขาว สำนักพิมพ์บ้านและสวน กล่าวถึง ถิ่นกำเนิดของราชาวดีว่า มีถิ่นกำเนิดในอินเดียและมาเลเซีย

ภาพของราชาวดี

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาดอกราชาวดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จันทร์เทศ

ดอกไม้ไทย น้ำมันลูกจันทน์และน้ำมันดอกจันทน์มีฤทธิ์ในการฆ่าลูกน้ำและตัวอ่อนของแมลงได้ ๕๐. จันทร์เทศ จันทน์เทศ ชื่อสามัญ  Nutmeg ชื่อว...